วันมาฆบูชา - An Overview
วันมาฆบูชา - An Overview
Blog Article
ขอความร่วมมือทุกท่านได้แต่งกายสุภาพเพื่อร่วมพิธีกรรมกัน
โอวาทปาฏิโมกข์ หลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ พระพุทธพจน์ ๓ คาถากึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป ผู้ไปประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ พระเวฬุ วนาราม ในวันเพ็ญเดือน ๓ ที่เราเรียกกันว่าวันมาฆบูชา (ถรรถกถากล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ นี้ แก่ที่ประชุมสงฆ์ตลอดมา เป็นเวลา ๒๐ พรรษา ก่อนที่จะโปรดให้สวดปาฏิโมกข์อย่างปัจจุบันนี้แทนต่อมา), คาถา โอวาทปาฏิโมกข์ มีดังนี้ (โอวาทปาติโมกข์ ก็เขียน)
นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี (ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย)
ราชกิจจาฯ ประกาศห้ามครอบครอง "ปลาหมอคางดำ" กำหนดพื้นที่ระบาด
การไม่กล่าวร้าย, การไม่ทำร้าย, ความสำรวมในปาฏิโมกข์, ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร, ที่นั่งนอนอันสงัด, ความเพียรในอธิจิต นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่เข้าใจกันโดยทั่วไป และจำกันได้มาก ก็คือ ความในคาถาแรกที่ว่า "ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส"
วันมาฆบูชาถือเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา และเป็นวันหยุดของทางราชการและเอกชน ทั่วทั้งปะเทศไทย ทำให้ชาวไทยมีโอกาสได้เข้าวัดทำบุญ และน้อมรำลึกถึงคำสอนสิ่งดีๆของพระพุทธเจ้า ซึ่งการไม่ทำความชั่ว และบำเพ็ญแต่ความดี จะทำให้จิตใจผ่องใส รวมถึงการรู้จักอดทน อดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลาย เป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า รวมถึงการไม่ผู้ทำร้าย หรือผู้เบียดเบียนคนอื่น การไม่กล่าวร้าย แม้แต่ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร และความเพียรพยายามเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่เข้าใจกันโดยทั่วไป แต่ที่ทุกคนมักจะจำกันได้มากที่สุด ก็คือ การไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี และทำจิตใจให้ผ่องใสนั่นเอง
สรงน้ำพระสงกรานต์ที่บ้าน บทสวด เวลา เผยขั้นตอน วิธีการ เพื่อสิริมงคล
บทสรรเสริญพระพุทธคุณ สวดทำนองสรภัญญะ (บทสวดสรภัญญะที่ขึ้นต้นด้วย:องค์ใดพระสัมพุทธ ฯลฯ)
According to the common Pāli commentaries, the Buddha continued to show this summary to get a duration of 20 many years, and then the custom made was replaced with the recitation of the monastic code of willpower with the Saṅgha themselves.
พระภิกษุสงฆ์ทุกองค์ที่ได้ มาประชุมในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นผุ้ได้บรรลุพระอรหันต์แล้วทุก ๆองค์
แปล : การไม่ทำความชั่วทั้งปวง, การบำเพ็ญแต่ความดี, การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง, พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่านิพพาน เป็นบรมธรรม, ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต,ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ การไม่กล่าวร้าย, การไม่ทำร้าย, ความสำรวมในปาฏิโมกข์, ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร, ที่นั่งนอนอันสงัด, ความเพียรในอธิจิต นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่เข้าใจกันโดยทั่วไป และจำกันได้มาก ก็คือ ความในคาถาแรกที่ว่า ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส
พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่านิพพาน เป็นบรมธรรม,
ที่มา : วันมาฆบูชา วันมาฆบูชา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ในวันมาฆบูชาของทุกๆปี พวกเราทุกๆคนจึงควรมาร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญครั้งนั้น และร่วมกันดำเนินตามเส้นทางของผู้มีปัญญาในอดีต จากบุคคลคนเดียว คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงธรรมแก่พระอรหันต์ทั้งหลาย และส่งต่อความรู้ที่สามารถเข้าถึงความสุขภายในได้ เผยแผ่ไปสู่มหาชนจำนวนมาก คำสอนของท่านได้สืบทอดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อบุคคลเหล่านั้นนำความรู้นั้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน ชีวิตจะเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งวิธีการปฏิบัติอย่างง่ายๆ โดยสร้างสันติสุขขึ้นในใจของตัวเราเองทุกๆคน ด้วยการเจริญสมาธิภาวนา รวมถึงให้อภัยแก่ผู้ที่ล่วงเกินต่อเราเป็นอันดับแรก แล้วพัฒนาเป็นความรักความเมตตาต่อผู้คนทุกหมู่เหล่า ความสุขจากคนๆหนึ่ง แผ่ขยายไปสู่คนจำนวนมาก เปรียบเสมือนการจุดประทีปจากดวงหนึ่งต่อๆกันไปจนเกิดความสว่างไสวไปทั่วทุกแห่งในโลก